ข้อความแรก ‘บิ๊กเอ็ม’ เคลื่อนไหวแล้ว หลังถูกปลดฟ้าแล่บหายไป 14 วัน
เรียกได้ว่าก่อนหน้านี้เป็นมรสุมชีวิตมากๆ หลังพัวพันกับรางวัลที่ 1 ทิพย์ จนทำให้ดาราหนุ่ม บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ บุตรพรม
ถูกต้นสังกัดยกเลิกสัญญาการเป็นนักแสดงในสังกัดของช่อง ต่อมา บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ ออกมาเคลื่อนไหวครั้งแรก หลังจากช่องหลากสี
ประกาศยุติสัญญาการเป็นนักแสดงในสังกัด โดยบิ๊กเอ็มโพสต์ใบแถลงของช่องหลากสี ในไอจีสตอรี่ พร้อมอิโมจิร้อง ไห้ และยกมือไหว้
จนมีกระแสข่าวว่า หลายช่อง หลายสังกัด กำลังจับจ้อง อยากร่วมงานกับดาราหนุ่มคนนี้ โดยทาง บิ๊กเอ็ม ได้โพสต์ไอจีสตอรี่ ไม่แน่ใจว่า
เป็นการบอกนัยๆ หรือไม่ เป็นภาพของหน้าหนังสือ ที่มีข้อความเขียนเอาไว้ว่า “ฉันคนใหม่ กำลังจะเริ่มต้น เจอกันเร็วๆ นี้” เอาเป็นว่ามา
ร่วมลุ้นข่าวดีกับพระเอกหนุ่มของเราไปพร้อมๆ กันค่ะ ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่ถูกพูดถึงมาสักพัก ทางด้านบิ๊กเอ็มได้เปิดใจสั้นๆ
ผ่านอินสตราแกรมบอกว่า ‘ตลอดเวลา 9 ปีที่ผ่านมาคือช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดในชีวิตผม ขอบคุณสำหรับทุกโอกาสครับ’ เป็นเวลา 2 อาทิตย์
หรือ 14 วันที่บิ๊กเอ็มได้หายไปจากโซเชียล ล่าสุดวันที่ 27 ม.ค. 66 บิ๊กเอ็มได้เคลื่อนไหวอินสตราแกรมอีกครั้ง โดยโพสต์ภาพตัวเอง พร้อม
ข้อความระบุว่า “I’m back everyone with 34 27.01.2023 The new beginning starts now.” ท่ามกลางเพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิง
และแฟนคลับต่างกดไลค์และแสดงความเห็นอวยพรวันเกิดและให้กำลังใจเขาจำนวนมากเลยทีเดียว ทัง้นี้หากย้อนกลับไป บิ๊กเอ็ม ก็ได้ไลฟ์สดแถลง
ข่าวร่วมกับ ณวัฒน์ สารภาพไม่ได้ถูกรางวัลที่ 1 ส่วนที่บอกว่าได้ส่วนแบ่ง 6 ล.และใช้ตังค์จำนวนนั้นไปบ้างแล้ก็ไม่ใช่เรื่องจริง โดยเขาบอกว่า
แต่สิ่งที่อยากจะบอกก็คือขอโทษ (ยกมือไหว้) กราบขอโทษทุกคน ประชาชนทุกคน แฟนๆ รวมถึงคนทุกคนที่ผมรู้จักที่มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดจากการที่ผมโง่เอง ผมไม่รู้ ผมไม่มีประสบการณ์ ผมเชื่อใจคนง่าย และผมก็คิดว่าทุกอย่างมันคือเรื่องจริง ทั้งๆ ที่ท้ายที่สุดแล้วผมก็เป็นแค่เด็กคนนึงที่ถูกหลoกใช้”
“ถามว่าผมจะดำเนินค ดีเพื่อปกป้องตัวเองมั้ย ยังไงดีล่ะ ก็เดี๋ยวผมขอปรึกษาทางผู้ใหญ่ก่อนครับว่ามันจะไปในทิศทางไหน แต่โดยส่วนตัว 4-5 วันที่ผ่านมาที่เกิดเรื่อง
ผมได้รับผลกระทบหนักมากๆ ซึ่งผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่วันนี้ผมกลายเป็นแพะรับบๅปแทนทุกคน ผมถูกสังคมต่อว่า ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้เป็นคนก่อ เรื่อง”