X

ย้อนวีรกรรม ‘มารี เบรินเนอร์’ ถูกขุดอดีตหนัก ที่แท้พ่อตำแหน่งใหญ่

Author:

ย้อนวีรกรรม ‘มารี เบรินเนอร์’ ถูกขุดอดีตหนัก ที่แท้พ่อตำแหน่งใหญ่

เรียกได้ว่ากำลังเป็นที่พูดถึงมากสำหรับ จากกรณีดราม่านักแสดงสาว มารี เบิร์นเนอร์ ที่สัมภาษณ์แขกรับเชิญ ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา

ผ่านรายการ ว่ามาดิ with Lily and Marie ทางช่องยูทุปของมารี ซึ่งในช่วงหนึ่งได้มีการพูดถึงเรื่อง ปุ้มปุ้ยโปะบ้าน 12 ล.บ.

โดยปุ้มปุ้ยได้เปิดใจถึงสาเหตุการโปะบ้านว่า วิธีคิดของปุ้ยก็คือ เราทำกิจการหลายอย่างแต่คุ้มไหม กำไรของมันล่ะที่เอาไปจ่ายดอก

เบี้ยบ้าน สรุปไม่คุ้ม เราเลยเลือกจะปิด” ขณะเดียวกัน มารี ก็ได้ออกมาพูดในมุมมองของเธอว่า “คือคนไทยติดนิสัยชอบผ่อนมากๆเลยนะ

คือประเทศอื่นไม่เป็นหนักขนาดนี้ ทุกคนจะซื้ออะไรแล้วไม่มีใครคิด คิดแค่ยอดผ่อนต่อเดือนเท่าไร เเต่ถ้าเราลองคำนวณ ซื้อบ้านเนอะ

ส่วนใหญ่ก็ทำสัญญา 20-30 ปี ลองคูณดูดิ จากบ้านราคา 10 ล. กลายเป็นราคา 20 ล.อะ” ซึ่งต้องบอกเลยว่างานนี้ทัวร์ลงหนักมาก

โดยหลายคนก้ถึงขั้นขุดอดีตของสาวมารีที่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา โดยทั้งนี้สำหรับประวัติสาว มารีนั้นเธอเริ่มเข้าวงการตั้งแต่อายุ 17 ปี โดย

ผ่านการทาบทาม และชักชวนจากโมเดลลิ่งให้เข้าสู่วงการบันเทิง มารีผ่านงานต่าง ๆ มากมาย มารีเริ่มต้นการเข้าสู่วงการครั้งแรกโดยการถ่าย

โฆษณๅ และได้เป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอของ ศุภรุจ เตชะตานนท์ ถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสาร เดินแฟชั่นโชว์ เมื่อ พ.ศ. 2554 มารีแสดงละคร

โทรทัศน์เรื่องแรก คือ สามหนุ่มเนื้อทอง รับบท สุพรรณิการ์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนักเหตุเพราะมารีเล่นแข็งและพูดไม่รู้เรื่องมากเกินไป

จนเกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก ต่อมาได้เป็นนางเอกในละครเรื่อง แม่เปียดื้อ เป็นนักแสดงในสังกัด สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่องน้อยสี เซ็น

สัญญา 3 ปี หลังจากโดนช่องเดิมแบนจากข่าวอื้อฉๅว ต่อมา สาวมารีหายหน้าจากวงการไปพักหนึ่งก่อนจะกลับมามีผลงานแสดงละครซีรีส์เรื่อง

ดิ โอซี ไทยแลนด์ ชิงรักริษยา โสด stories 2 และอื่น ๆ ทางช่องวัน ก่อนจะพลิกบทเป็นนางร้ๅยครั้งแรกใน เมีย 2018 ในบทของ

กันยา และได้ตัดสินใจเซ็นสัญญาเข้าสังกัดช่องวัน โดย มารี เบรินเนอร์ เป็นลุกครึ่งไทย-เยอรมนี เป็นบุตรของ มันเฟรด เบรินเนอร์ และ เฉิดฉวี แสงจันทร์

มีพี่ชาย 1 คน บิดาของเธอเป็นทูตวัฒนธรรมของเยอรมนี มารีจึงได้เดินทางไปพำนักอาศัยอยู่ในหลายประเทศ เมื่อบิดาเกษียณตอนเธออายุ 10 ขวบ

จึงได้ย้ายมาอยู่ประเทศไทยโดยถาวร สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี และปริญญาตรีนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (วิทยาลัยนานาชาติ)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *