
บ้านสวน ‘หนุ่ม สันติสุข’ หายหน้าใช้ชีวิตเรียบง่ายที่ชนบทในวัย 59 ปี
อีกหนึ่งนักแสดงที่ใครหลายคนรุ้จักดีสำหรับหนุ่ม สันติสุข พรหมศิริ เป็นบุตรของสำเริง กับสุวรรณา พรหมศิริ การศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง
สันติสุขเข้าสู่วงการแสดงขณะเมื่อเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้เป็นประธานชมรมการแสดง มีโอกาสแสดงภาพยนตร์และละครเวทีหลายเรื่อง ในปี พ.ศ. 2531 บัณฑิต ฤทธิ์ถกล
เลือกให้รับบทเป็น บุญชู คู่กับ จินตหรา สุขพัฒน์ ในภาพยนตร์เรื่อง บุญชูผู้น่ารัก ของไฟว์สตาร์โปรดักชั่น ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอันมาก ทำให้สันติสุข–จินตหรา
เป็นคู่ดารานำแห่งยุค ได้แสดงภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ร่วมกันอีกจำนวนมาก ในปี พ.ศ. 2532 รับบทเด่นเป็น จะเด็ด ที่ได้รับความนิยมสูงมาก เรื่อง ผู้ชนะสิบทิศ ทางช่อง 3
และยังแสดงบทร้ายครั้งแรกในละครเรื่อง เลือดเข้าตา โดยแสดงเป็น สารวัตรก้อนเส้า ทางช่อง 5 และในปี 2536 ออกอัลบัมเพลงชุดหนึ่งกับค่ายคีตาแต่ไม่ประสบผลสำเร็จมากนัก
สันติสุขเคยคบหากับนักแสดงสาวจินตหรา สุขพัฒน์ เป็นระยะเวลานานถึง 8 ปีแต่สุดท้ายก็ต้องเลิกรากันไป แต่ทั้งสองก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ปัจจุบันสันติสุขสมรสกับณิชกานต์
เตชะโสภาพรรณ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2545 มีบุตรด้วยกันสามคน ได้แก่ ศิวกร พรหมศิริ (โฟกัส) เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2547 ภัทรนัน พรหมศิริ (ฟอส) (ฝาแฝด)
และณัฐดนัย พรหมศิริ (เฟม) (ฝาแฝด โดยหนุ่ม ล่าสุดประกาศขายบ้านที่อยู่มานาน 33 ปี หนุ่ม สันติสุข : “ใช่ คือบ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังแรกที่ซื้อจากน้ำพักน้ำแรกตั้งแต่เข้าวงการ
คือผมเข้าวงการมาตั้งแต่ปี 2529 แล้วบ้านหลังนี้ซื้อตอนปี 2531 ทุกวันนี้ก็มีอายุ 33 ปี ก็มีความผูกพันเพราะคุณพ่อคุณแม่ก็อยู่ที่นี่จนท่านเสียไป ส่วนสาเหตุที่ต้องขายก็คือ
ลูกโตขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น เริ่มเดินชนกันในบ้าน ก็เลยไปสร้างบ้านใหม่ ใกล้ๆ แล้วบ้านใหม่ก็เสร็จพอดี ตอนแรกตั้งใจว่าจะเก็บไว้ให้เป็นมรดกลูกๆ แต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาโควิด
มันทำให้เราทำงานไม่ได้ รายได้ก็ไม่เข้ามา ก็เลยไม่สามารถเก็บไว้ได้” แฟนๆ กังวลว่าจะอำลาวงการ แล้วไปทำไร่ที่เชียงราย หนุ่ม สันติสุข : “ก็มีข่าวออกมาว่าหนีพิษโควิด
จะไปอยู่เชียงราย จริงๆ แล้วบ้านที่เชียงราย ผมซื้อและสร้างไว้ 20 กว่าปีแล้ว เพราะว่าตอนนั้นไปถ่ายละคร แล้วเห็นว่าสวยดีก็เลยซื้อไว้ แล้วก็มีการต่อเติมจนมีไร่มีนา เราก็ทำ
ตามเศรษฐกิจพอเพียง มีพื้นที่ 20 ไร่ ก็มีปลูกข้าวสามไร่ ปลูกไม้ใหญ่ เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ถามว่าเรามีการนำพื้นสร้างรายได้ไหม ก็ให้คนที่เฝ้าอยู่เขามีรายได้ คือเราก็ให้ที่
เขาไปทำกิน เขาก็เฝ้าที่ให้เรา พอช่วงปีใหม่ อากาศดีๆ หนาว ๆ เราก็พาลูกไปตกปลาบ้าง ไปดำนาบ้างจะได้รู้ว่าเขาปลูกข้าวกันอย่างไร ลูกก็ชอบ ปีหนึ่งก็ไป 2-3 ครั้ง
ถามว่าจะมีโอกาสไปอยู่ถาวรไหม เราก็มีวางโครงการไว้ ว่าวันหนึ่งถ้าลูกเต้าเราสบายแล้วเราก็อาจจะไปอยู่นานหน่อย แต่ถ้าให้ไปอยู่เลยเราคงไปอยู่ไม่ได้”
