ไม่ง้อสมบัติ สะบั้นรักเศรษฐีชุมพร!
ฟ้าหลังฝน ‘พั้นช์ วรกาญจน์’ อยู่ครองโสด ทิ้งชื่อคุณนายยืนขายน้ำส้ม
หลังจากที่นักร้องสาว ‘พั้นช์ วรกาญจน์’ ได้ออกมาเปิดใจถึงความสัมพันธ์กับสามี ‘ปลั๊ก อรรถกร’ ที่แต่งงานใช้ชีวิตคู่มานานกว่า 4 ปี
โดยบอกว่าตอนนี้ได้แยกทางกันแล้ว สาเหตุมาจากทัศนคติไม่ค่อยตรงกัน และการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ชีวิตคู่มีปัญหาสะสมมายาวนาน ก่อนจะย้ำไม่มีโอกาสหวนคืนดี
“ที่มีข่าวออกไป ก็คือเราก็แยกทางกันแล้ว ตัดสินใจที่จะเป็นเพื่อนกันแล้ว ได้คุยกันแล้ว จริงๆ มันเป็นปัญหาที่สะสมมานานสักพักแล้ว
เรารู้สึกว่าถ้าเราแยกไปทำหน้าที่ตัวเองมันน่าจะดีกว่า เพราะเขามีหน้าที่ของเขาที่ต้องดูแลอยู่แล้ว ก็หน้าที่ตรงนี้มาตั้งนานแล้ว เลยรู้สึกว่าให้เขาไปทำในสิ่งที่เขาต้องการดีกว่า
คนมองว่าช่วงที่แต่งงานหายไปประมาณ 3 ปี ไม่รับงาน ก็รับนะคะ ก็มีออกเพลงใหม่ด้วย แต่ด้วยความที่อาจจะไม่ค่อยได้ออกสื่อเท่าไร คนก็เลยไม่ค่อยได้เห็นพั้นช์
คือก็ยังรับงานร้องเพลงปกติ แต่ตอนนี้อาจจะไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ กับสามีคบมานาน คือนานสุดค่ะ ระยะเวลาที่ผ่านมาเหมือนเป็นเพื่อนกันมาตลอด เราเคยชินด้วย
อยู่แบบนี้มาตั้งนานแล้ว ชินกับความเป็นอยู่แบบนี้ เพราะว่าที่ผ่านมาเราจะคิดแต่เรื่องงาน เราก็ไม่ได้คิดเรื่องครอบครัวสักเท่าไร
คือทัศนคติเราไม่ค่อยตรงกัน การใช้ชีวิตอาจจะไม่ตรงกันบ้าง มันก็เลยทำให้ต้องมีปัญหา แต่ก็ยังคุยกันได้ในฐานะเพื่อนนะคะ ก็ยังรู้สึกว่าถ้าเขามีความหวังดีให้ ถ้ามีอะไรยังสามารถคุยกันได้
‘พั้นช์’ ก็เป็นคนพูดเองบอกเลิกเองที่ตัดสินใจเลิกจัดหนึ่งที่เรารู้สึกว่ามีกับไม่มีมันรู้สึกไม่ต่างกัน กับอดีตสามี 8 ปี ความสัมพันธ์ดีมาตลอด คือ ‘พั้นช์’ จะเป็นคนแบบว่าสบายๆ
แบบจะไม่ตาม ตอนนั้นที่ขอเลิกกันเพราะว่าเราจับได้ว่าเขาแบบไปคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งก่อนจะแต่งงานประมาณครึ่งปีได้ ที่เรารู้เพราะว่ามันไม่เหมือนเดิม
ก็ไปขอ ว่าถ้าเขามีคนอื่นหรือว่าอะไรที่เปลี่ยนไป ขอให้รู้ภายในสามวันเจ็ดวัน และเราก็ได้แต่งงานมา 4 ปี ซึ่ง ‘พั้นช์’ ก็เป็นคนพูดเอง บอกเลิกเอง
ที่ตัดสินใจเลิกตัดหนึ่งที่เรารู้สึกว่ามีกับไม่มีมันรู้สึกไม่ต่างกัน และตอนนี้ ‘พั้นช์’ จะรู้สึกอยู่ช่วงหนึ่งเพลงของ ‘พี่ลุลา’ เรื่องที่ขอ คิดว่าทำไมตรงกับเราจัง
เลยเอาขึ้นไปร้องบนเวทีด้วยนะคะ แต่เรารู้สึกว่าทำไมแบบตอนนั้นปัจจุบันที่เราเป็นอยู่เรารู็สึกมาก ทำไมเราร้องไม่ได้ เพราะเวลาที่เราจะร้องเหมือนเราจะร้องด้วย
ก็เลยยื่นให้เขาร้องเพราะตอนนั้นรู้สึกจริง ๆ ค่ะ ก็คือไม่ได้เจอกันเลย และตอนนี้โอเคแล้ว และพร้อมเดินหน้าต่อ สำหรับรักครั้งใหม่ก็เปิดใจ
มีคนคุยและมีเข้ามาบ้างเพราะเขาเห็นว่าเราโสด แต่ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา ให้มันเหมาะสม ถ้าเข้ามาแบบดีๆ เราก็โอเค แต่ถ้าไม่ดีก็ไม่ดีกว่า ”